การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ราคาถูกอาจมีความเสี่ยงหลายประการ เนื่องจากใช้ต้นทุนในการผลิตที่ต่ำ รวมไปถึงวัตถุดิบที่ไม่ได้คุณภาพ และที่สำคัญการได้รับการรองรับมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่อาจไม่เข้าหลักเกณฑ์ในประเทศไทย วันนี้เรามาดูว่าปัจจัยเสี่ยงต่างๆของการซื้อบรรจุภัณฑ์ราคาถูกมากจนเกินไป ผู้ประกอบการและผู้บริโภคจะต้องเสี่ยงกับอะไรบ้าง
การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ราคาถูกอาจมีความเสี่ยงหลายประการ ดังนี้:
- คุณภาพต่ำ: บรรจุภัณฑ์ราคาถูกมักจะทำจากวัสดุคุณภาพต่ำ ซึ่งอาจไม่ทนทานต่อการขนส่งหรือการจัดเก็บ อาจทำให้สินค้าเสียหายหรือเสื่อมสภาพได้ง่าย
- ปัญหาด้านความปลอดภัย: วัสดุที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์ราคาถูกอาจไม่ผ่านการรับรองด้านความปลอดภัย เช่น การปล่อยสารเคมีอันตราย หรือการไม่ทนต่อความร้อน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค
- ภาพลักษณ์ของแบรนด์: บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพต่ำอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ ทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกว่าแบรนด์ไม่ใส่ใจในรายละเอียด หรือสินค้าไม่มีคุณภาพ
- ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม: บรรจุภัณฑ์ราคาถูกมักจะไม่ทนต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง เช่น ความชื้นหรือความ
- ร้อน ซึ่งอาจทำให้บรรจุภัณฑ์แตกหัก หรือสินค้าเสียหายได้
- การปฏิบัติตามข้อกำหนด: บรรจุภัณฑ์ราคาถูกอาจไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรฐานต่าง ๆ เช่น กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม หรือการติดฉลาก ซึ่งอาจนำไปสู่การถูกปรับหรือฟ้องร้องทางกฎหมายได้
- อายุการใช้งานสั้น: บรรจุภัณฑ์ราคาถูกมักมีอายุการใช้งานสั้น ทำให้ต้องเปลี่ยนใหม่บ่อย ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในระยะยาว
การเลือกบรรจุภัณฑ์อย่างถ้วยกระดาษหรือแก้วกระดาษ รวมไปถึงพลาสติกจึงควรคำนึงถึงความสมดุลระหว่างราคาและคุณภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าจะได้รับการปกป้องและสอดคล้องกับมาตรฐานต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ เพื่อประโยชน์ต่อตัวผู้ประกอบการและผู้บริโภค
โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การนำเข้าบรรจุภัณฑ์จากจีนได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ “TEMU” เป็นแอปพลิเคชันอีคอมเมิร์ซน้องใหม่เนื่องจากมีราคาที่ต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม มีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพและความปลอดภัยของบรรจุภัณฑ์เหล่านี้ เนื่องจากอาจไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากลหรือข้อกำหนดทางกฎหมายในประเทศที่นำเข้า การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานจากจีนต่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับแบรนด์
วิธีการวิจัย:
การรวบรวมข้อมูล:
- รวบรวมข้อมูลจากรายงานการตรวจสอบคุณภาพบรรจุภัณฑ์ที่นำเข้าจากจีน
- สำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคเกี่ยวกับประสบการณ์ที่มีต่อสินค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์จากจีน
- สัมภาษณ์ผู้ประกอบการที่เคยใช้บรรจุภัณฑ์จากจีนและเผชิญกับปัญหาคุณภาพ
การวิเคราะห์ข้อมูล:
- วิเคราะห์ผลการตรวจสอบคุณภาพเพื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานสากลและข้อกำหนดของประเทศที่นำเข้า
- วิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการเรียกคืนสินค้า (Product Recall) หรือการถูกฟ้องร้องทางกฎหมาย
ผลการวิจัย (ตัวอย่าง):
- พบว่าบรรจุภัณฑ์จากจีนที่ไม่ได้มาตรฐานมีสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ และบางชนิดมีการใช้พลาสติกที่ไม่ได้รับการรับรองซึ่งสามารถปล่อยสารพิษออกมาเมื่อสัมผัสกับอาหาร
- บริษัทที่ใช้บรรจุภัณฑ์เหล่านี้ประสบกับปัญหาการเรียกคืนสินค้าที่ทำให้เสียหายทางการเงินและภาพลักษณ์ของแบรนด์
- ผู้บริโภคแสดงความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์เหล่านี้
ข้อเสนอแนะ:
- แนะนำให้บริษัทตรวจสอบคุณภาพของบรรจุภัณฑ์จากผู้ผลิตจีนอย่างเข้มงวดก่อนนำเข้าสู่กระบวนการผลิต
- เสนอให้ใช้บริการทดสอบบรรจุภัณฑ์จากหน่วยงานที่ได้รับการรับรองเพื่อให้แน่ใจว่าบรรจุภัณฑ์นั้นปลอดภัยและได้มาตรฐาน
- ส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศเพื่อลดความเสี่ยงด้านคุณภาพและความปลอดภัย
วัตถุประสงค์ของการวิจัย:
- เพื่อประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกิดจากการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานจากจีน
- เพื่อศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อบริษัทที่ใช้บรรจุภัณฑ์เหล่านี้
- เพื่อเสนอแนะแนวทางในการป้องกันและควบคุมความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
ทั้งนี้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศไทยมีข้อดีหลายประการ สรุปได้ดังต่อไปนี้:
- สนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น: การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทยช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการและแรงงานในท้องถิ่น ทำให้เงินหมุนเวียนในประเทศ และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ
- คุณภาพและมาตรฐาน: บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทยมักจะปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ในประเทศ ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่าสินค้าจะได้รับการปกป้องและส่งมอบในสภาพที่ดี
- ลดต้นทุนการขนส่ง: การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศช่วยลดต้นทุนในการขนส่งระหว่างประเทศ และยังช่วยลดเวลาในการจัดส่ง ซึ่งเป็นประโยชน์ในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว
- ความยืดหยุ่นในการสั่งผลิต: ผู้ผลิตภายในประเทศมักจะสามารถปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ได้ตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และสามารถจัดการคำสั่งซื้อตามจำนวนที่ต้องการได้ง่ายกว่า อีกทั้งยังสามารถออกแบบแก้วกระดาษหรือถ้วยกระดาษพิมพ์ลายหรือโลโก้เป็นของแบรนด์ตนเองได้อีกด้วย
- สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมาย: การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวจะสอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายและมาตรฐานต่าง ๆ ของไทย เช่น กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม การติดฉลาก และความปลอดภัย
- ความสามารถในการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพ: การผลิตภายในประเทศช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบและควบคุมคุณภาพของบรรจุภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น หากเกิดปัญหาใด ๆ สามารถประสานงานกับผู้ผลิตได้ทันที
- การส่งเสริมความยั่งยืน: การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศช่วยลดการใช้พลังงานในการขนส่งและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม
โดยสรุป การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศไทยมีข้อได้เปรียบสำคัญทั้งในด้านการสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศ การลดต้นทุนด้านการขนส่ง และการรับรองคุณภาพที่สอดคล้องกับมาตรฐานท้องถิ่น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมคุณภาพและปรับตัวได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการของตลาด ในขณะเดียวกัน การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศยังเป็นการส่งเสริมความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมผ่านการลดพลังงานที่ใช้ในการขนส่ง ถือเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดและสร้างประโยชน์รอบด้านแก่ทั้งธุรกิจและสังคม
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เปิดลิสต์สินค้าจีนด้อยคุณภาพ “สมอ.” ไล่จับตลอดปี 2566
https://www.prachachat.net/economy/news-1466664 - กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
https://www.ditp.go.th - Journal of Packaging Technology and Research หรือ Packaging Technology and Science
https://link.springer.com/journal/41783?srsltid=AfmBOoqobaIFTzyPtRjGLCdpqdIN4px49zxALCLOjkJVhgXy_ug3DJ6m - องค์การอาหารและยา (FDA) ในสหรัฐอเมริกา หรือสำนักมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) ในประเทศไทย