แก้วกระดาษคือบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่อาหารและเครื่องดื่มยอดนิยมในปัจจุบัน ผลิตจากกระดาษชนิดพิเศษที่เคลือบด้วยพลาสติก Food Grade ปลอดภัยต่อสุขภาพ แก้วกระดาษมีหลากหลายขนาดและดีไซน์ เหมาะสำหรับใช้ทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็น
โดยส่วนประกอบหลักของแก้วกระดาษมีดังต่อไปนี้
• กระดาษ : เลือกใช้กระดาษจากเยื่อไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้สน ไม้ยูคาลิปตัส ไม้กระถิน
• พลาสติก Food Grade : เคลือบบนผิวกระดาษเพื่อป้องกันน้ำซึมและรักษาอุณหภูมิ
• สารเคลือบอื่นๆ โพลีเอทิลีน (Polyethylene, PE) : เพิ่มคุณสมบัติ เช่น กันน้ำ กันร้อน กันซึม
ซึ่งข้อดีของแก้วกระดาษนั้นมีมากมาย วันนี้เราจึงขอยก 10 ข้อดีของแก้วกระดาษมาให้ทุกคนได้พิจารณาก่อนเลือกซื้อและตัดสินใจนำไปใช้กับธุรกิจต่างๆ
1. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: แก้วกระดาษผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ 100% ช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกที่ย่อยสลายยากและกำลังเป็นปัญหาในการกำจัดขยะอยู่ทั่วโลกในตอนนี้
2. ปลอดภัยต่อสุขภาพ: แก้วกระดาษเคลือบด้วยพลาสติกชนิดพิเศษ Food Grade ซึ่งมีความปลอดภัยต่ออาหารและเครื่องดื่ม ไม่ดูดซับสารเคมี ไม่ก่อให้เกิดสารอันตรายต่อร่างกายอย่างแน่นอน
3. สะดวกใช้งาน: แก้วกระดาษมีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก เหมาะสำหรับใช้ในสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร งานอีเว้นท์ รวมไปถึงร้านคาเฟ่ต่างๆที่หันมาใช้แก้วกาแฟกระดาษกันเป็นส่วนใหญ่
4. รักษาอุณหภูมิ: แก้วกระดาษสามารถรักษาอุณหภูมิของเครื่องดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น เหมาะสำหรับการดื่มกาแฟ ชา น้ำผลไม้ แต่ไม่เหมาะสำหรับใช่ไว้เป็นระยะเวลานานๆ
5. มีหลากหลายขนาด: แก้วกระดาษมีให้เลือกหลายขนาด เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น แก้วขนาดเล็กสำหรับกาแฟ แก้วขนาดกลางสำหรับธุรกิจคาเฟ่ และแก้วขนาดใหญ่สำหรับน้ำผลไม้ปั่นต่างๆ
6. ดีไซน์สวยงาม: แก้วกระดาษสามารถออกแบบลวดลายและสีสันได้หลากหลาย เพิ่มความสวยงามและสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ โดยผู้ใช้งานสามารถนำไปพิมพ์ลายหรืออกแบบให้ตรงตามโลโก้ของธุรกิจได้
7. ราคาประหยัด: แก้วกระดาษมีราคาไม่แพง เหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าจะเล็ก กลาง หรือใหญ่
8. ส่งเสริมภาพลักษณ์: การใช้แก้วกระดาษแสดงถึงภาพลักษณ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ดึงดูดลูกค้าที่รักษ์โลก รวมไปถึงดูมีความสะอาดตา
9. สะอาด ปลอดภัย: แก้วกระดาษเป็นแบบใช้แล้วทิ้ง ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค เพราะไม่มีการนำกลับมาใช้ซ้ำ
10. รีไซเคิลได้: แก้วกระดาษสามารถรีไซเคิลเป็นกระดาษใหม่ได้ ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและลดปริมาณขยะ
ดังนั้นเราจึงสรุปได้ว่าแก้วกระดาษในปัจจุบันถือเป็นทางเลือกหลักที่ผู้ประกอบการต่างให้ความสนใจและเริ่มหันมาใช้งานกันมากขึ้นเพื่อทดแทนบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีการย่อยสลายได้ยากอีกทั้งยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์อีกด้วย ทั้งนี้เจ้าของธุรกิจทุกท่านควรเลือกซื้อบรรจุภัณฑ์จากร้านที่เชื่อถือได้และต้องได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. เท่านั้น
ในส่วนของพลาสติกนั้นประเทศไทยมีขยะพลาสติกประมาณร้อยละ 12 ของปริมาณขยะที่เกิดขึ้นทั้งหมด หรือประมาณปีละ 2 ล้านตัน มีการนำกลับไปใช้ประโยชน์ประมาณปีละ 0.5 ล้านตัน (ร้อยละ 25) ส่วนที่เหลือ 1.5 ล้านตัน (ร้อยละ 75) เป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว อาทิ ถุงร้อน ถุงหูหิ้ว แก้วพลาสติก หลอดพลาสติก บรรจุภัณฑ์สำหรับบรรจุอาหาร ซึ่งไม่มีการนำกลับไปใช้ประโยชน์ใหม่
ทั้งนี้เราควรเลือกใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกหรือกระดาษให้เหมาะสมตามสถานการณ์ต่างๆ เพราะบางโอกาสแก้วพลาสติกก็อาจจะเหมาะสมในการใช้งานมากกว่า อย่างเช่นการใช้งานที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานต่อการรั่วซึมได้ยาก ส่วนแก้วกระดาษนั้นมีความเหมาะสมกับเครื่องดื่มที่ต้องดื่มทันทีและต้องการงานออกแบบที่สวยงามไม่เน้นความแข็งแรง
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : http://env_data.onep.go.th
มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. : https://www.industry.go.th
สารเคลือบโพลีเอทิลีน (Polyethylene, PE) : https://th.wikipedia.org/wiki/พอลิเอทิลีน